วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

โครเก็ตกุ้ง

ขอขอบคุณสูตรอาหารจากร้าน "ทำเสื้อ ทำสวน" โทร 02-669-6613

หลายคนชอบที่จะทำอาหารทานเองที่บ้านมากกว่าการออกไปหาอาหารทานนอกบ้าน เพราะชอบใจที่ว่าจะใส่ส่วนผสม เครื่องปรุง วัตถุดิบ อะไร มากน้อยแค่ไหนก็ได้ตามใจที่อยากจะปรุง เรียกได้ว่าถึงเครื่องถึงรส "เนื้อ" เป็น "เนื้อ" ไม่ใช่ "วิญญาณ" อย่างที่เจอกันบ่อยๆ

แต่ก็ยังมีร้านอาหารอีกหลายๆ ร้านที่ให้บริการอาหาร
ในสไตล์ Home made โดยเน้นความพิถีพิถันในการปรุงและให้ความสำคัญกับเครื่องปรุงและวัตถุดิบที่นำมาใช้ ซึ่งจะเน้นถึงคุณภาพและความสดใหม่เป็นหลัก พร้อมกับเสิร์ฟให้ทานแบบไม่หวงเครื่อง เหมือนกับการทำอาหารให้คนในครอบครัวทานอย่างไงอย่างงั้น

เช่นเดียวกับร้าน "ทำเสื้อ ทำสวน"
ร้านอาหารในสไตล์ Home made ซึ่งครั้งนี้ก็ได้ฝากสูตรเมนู Home made แสนอร่อยมาให้กับชาว able ได้นำไปลองทำให้คนในครอบครัวได้ทานกันค่ะ

ส่วนผสม

กุ้งแชบ๊วยสับหยาบ 100 กรัม
แครอทสับละเอียด 50 กรัม
หอมใหญ่หั่นละเอียด 50 กรัม
มันฝรั่งตัมสุกบดละเอียด 100 กรัม
พริกไทยดำป่นหยาบ 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
ไข่ไก่ 1 ฟอง
แป้งสาลี 100 กรัม
เกร็ดขนมปัง 50 กรัม


เครื่องปรุงสำหรับแต่งหน้า


มายองเนส
ซอสพิซซ่าญี่ปุ่น
พริกป่นญี่ปุ่น


วิธีทำ
  • นำกุ้งที่ล้างเตรียมไว้มาสับพอหยาบๆ
  • ผัด แครอทและหอมใหญ่ กับเนยจนสุก
  • ผสม กุ้ง มันฝรั่งบด แครอทและหอมใหญ่ เข้าด้วยกัน แล้วเติมรสชาติอีกนิดด้วย เกลือ และพริกไทย
  • ปั่นส่วนผสมที่คลุกเคล้ากันจนดีแล้วให้เป็นก้อนกลม จากนั้นนำไปชุบแป้งสาลี ไข่และเกร็ดขนมปัง ตามลำดับ
  • ตั้งกระทะจนน้ำมันร้อนได้ที่ จากนั้นให้หรี่ไฟลงจนเหลือไฟอ่อนๆ แล้วจึงนำโครเก็ตที่ปั้นไว้แล้วลงทอดนานประมาณ 3 นาที่ หรือจนกว่าโครเก็ตจะสุกจนเป็นสีเหลืองทองน่ารับประทาน
  • ก่อนเสิร์ฟแต่งหน้าเพิ่มเติมอีกนิดด้วย มายองเนส ซอสพิซซ่าญี่ปุ่น และพริกป่นญี่ปุ่น
สุดสัปดาห์นี้อย่าลืมเพิ่มเมนู "โครเก็ตกุ้ง" ไว้ในอีกหนึ่งเมนู Home made ประจำบ้านของคุณนะคะ

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Tuna Mozzarella Cheese

ยุคดิจิตอลแบบนี้ อะไรๆ ก็คงต้องคำนึงถึงความเร็วและสะดวกเป็นหลักก่อน able เลยหยิบยกเมนูเด็ดที่ทำง่าย จากแฟนคอลัมน์แนะนำมาทางจดหมาย ซึ่งทางทีมงานเห็นแล้วอดใจไม่ไหว เลยลองทำมานำเสนอกันเพื่อความรวดเร็ว (ให้เข้ากับยุค) ไปทำกันเลย...

ส่วนผสม
  • ขนมปังชนิดแผ่น
  • ทูน่าในน้ำมันพืช 1 กระป๋อง
  • มายองเนส 5 ช้อนโต๊ะ
  • มอสเซอเรล่าขูด 1 ถ้วย
  • มะเขือเทศหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ลูก
  • เกลือ พริกไทย เนยจืดสำหรับทาหน้าขนมปัง ตามชอบ
วิธีทำ
  1. นำ ปลาทูน่าซึ่งแยกออกจากน้ำมันเรียบร้อยแล้ว มายีให้เป็นฝอยๆ แล้วจึงนำมะเขือเทศกับมายองเนสลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยตามชอบ
  2. หั่นขนมปังให้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า นำขนมปังไปปิ้ง แล้วทาด้วยเนยจืด
  3. จากนั้นนำเอาไส้ปลาทูน่าไปทาบนขนมปังทาเนยที่เตรียมไว้ แล้วโรยด้วยมอสเซอเรล่าชีสให้ทั่ว
  4. นำทั้งหมดเข้าเตาอบ เพื่อให้หน้าของชีัสละลายเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมผักสลัด
เท่า นี้ก็จะได้ขนมปังกลิ่นหอมกรุ่น หน้าตาน่าทานมาลิ้มลอง แต่ถ้าใครอยากเพิ่มรสชาติและสีสัน จะโรยหน้าด้วยผงปาปริก้าหรือมายองเนสก็ไม่ว่ากัน


ยำมหาสมุทร

ขอขอบคุณ "ร้านมุมอร่อย" สาขานาเกลือ โทร. 038-223252, 038-703201

" ยำ" เป็นอาหารอีกประเภทหนึ่งที่ทำได้ง่าย เพราะมีเครื่องปรุงเพียงไม่กี่อย่าง แต่การที่จะทำออกมาให้อร่อยนั้น ดูจะเป็นเรื่องยากเอาการทีเดียว วันนี้เรามีสูตรน้ำยำรสเด็ดของเชฟคนสวยจากร้าน "มุมอร่อย" มาฝาก ก็เลยทำให้เรื่องยำ ยำ กลายเป็นเรื่องเล็กๆ ไปเลย

ส่วนผสม
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูสด 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ยอดผักกระเฉดลวกเรียบร้อยแล้ว ตามชอบ
  • กุ้ง ปลาหมึก ลูกชิ้นปลา ไข่ปลาเรียวเซียว เนื้อก้ามปูและไข่ปู ทั้งหมดนำไปลวกเรียบร้อยแล้ว
วิธีทำ
  1. นำน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลและพริกขี้หนูผสมเข้าด้วยกัน คนจนน้ำตาลละลาย ชิมรสชาติตามชอบ
  2. ใส่หอมแดงซอยและกระเทียมเจียว คนให้เข้ากัน
  3. นำกุ้ง ปลาหมึก ลูกชิ้นปลาและยอดผักกระเฉด เทผสมลงในน้ำปรุงที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากันอีกนิดหน่อย
  4. สุด ท้ายใส่ไข่ปลาเรียวเซียว เนื้อก้ามปูและไข่ปู เทลงผสมด้วยกันแล้วคนเบาๆ ระวังไม่ให้ไข่ปลาและเนื้อปูแตก เมื่อผสมเข้ากันดีแล้วจึงตักใส่จานที่เตรียมไว้


ขอขอบคุณ "ร้าน chico" โทร. 0-2258-6557

ช่วง ยามบ่ายของวันที่เหล่าเด็กๆ เปิดเทอมมาถึง คุณแม่หลายคนคงกำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมหาของว่างให้กับลูกๆ หลังกลับมาจากโรงเรียน และเพื่อไม่ให้คุณแม่ต้องเหน็ดเหนื่อยต้องเหน็ดเหนื่อยจนเกินไป วันนี้ able จะมาช่วยคุณแม่จัดเตรียมของว่างให้กับน้องๆ กัน รับรองว่าทำง่าย แถมยังอร่อยอีกด้วยค่ะ


ส่วนผสม

-แป้งชิดาตามะ 250 กรัม
-ถั่วเหลืองสุกบดละเอียด 1 ถ้วย
-คุโรมิสึ (น้ำเชื่อมญี่ปุ่น) 1 ถ้วย
-ใบโยโมกิสับละเอีียด
-น้ำเปล่า


วิธีทำ
  1. นำใบโยโมกิสับละเีอียดที่เตรียมไว้ มาผสมลงในแป้งชิดาตามะ
  2. นำแป้งที่ผสมแล้วมานวดกับน้ำเปล่า ค่อยๆ ใส่น้ำทีละนิด นวดจนแป้งนุ่ม เหนียว เกาะกันเป็นก้อนและเป็นสีเขียวเข้ม
  3. ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมๆ ขนาดไม่ต้องใหญ่มาก แล้วนำไปคลึงจนได้เป็นแผ่นบางๆ
  4. นำตัวแป้งลงต้มในน้ำเดือดประมาณ 5 นาที เมื่อแป้งสุกแล้วตักขึ้นใส่จานที่เตรียมไว้
  5. ก่อนเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยถั่วเหลืองบดละเอียดให้ทั่วแผ่นแป้ง แล้วตามด้วยคุโรมิสึหวานๆ
ง่ายๆ เพียงแค่นี้ คุณหนูๆ ทั้งหลายก็จะได้ลิ้มลอง"ชิดาตามะ" ที่ทั้งนุ่ม เหนียวและหอมหวานไปกับคุโรมิสึและกลิ่นของใบโยโมกิ


สลัดผัก

ขอขอบคุณ "ร้าน My Home" โทร. 0-2981-0200

เคย ได้ยินมานานแล้วว่า ผักที่ปลูกด้วยวิธี "ไฮโดรโปนิกส์" จะเป็นผักที่มีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย แถมยังดีต่อสุขภาพของคนกินและสุขภาพของสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เพราะเป็นผักที่ปลอดจากสารพิษและยาฆ่าแมลงทุกชนิด

พอมีโอกาสได้ไปชิมมา ถึงได้รู้ว่าอร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ ค่ะ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะนำสูตรอร่อยๆ กลับมาฝากผู้อ่าน able เช่นเคยค่ะ

ส่วนประกอบผักสลัด

บัตเตอร์เฮด / กรีนโอ๊ค / เรดโอ๊ค / เรดคลอรัล / มะเขือเทศเชอรี่ / กะหล่ำม่วง / แครอท /
บีทรูท / ถั่วลันเตา / ข้าวโพด หรือผักชนิดใดก็ได้ตามใจชอบ

ส่วนประกอบน้ำสลัดชนิดข้น
แบบ Low Fat
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำมันสลัด 300 กรัม
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
  1. ตีไข่ไก่ เกลือ น้ำตาล ให้เข้ากัน
  2. เมื่อตีจนส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้ใส่น้ำส้มสายชูลงไปและตีให้ส่วนผสมเข้ากันอีกรอบ
  3. ค่อยๆ ใส่น้ำมันสลัดทีละน้อย และตีต่อไปจนได้น้ำสลัดที่ข้น
นำ ไปทานพร้อมกับผักหลากชนิด ช่วยให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง พร้อมที่จะต่อสู้กับสภาพอากาศที่แปรปรวนอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อนที่กำลัง เกิดขึ้นอยู่นี้


Rogan Josh

ขอขอบคุณ "ร้าน Indus" โทร. 0-2258-4900

Food Lover ฉบับนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศมาเอาใจคนที่ชื่นชอบอาหารอินเดียกันบ้างนะคะ รับรองว่าผู้ที่หลงใหลในรสชาติของเครื่องเทศต้องไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

อาหาร จากร้าน Indus ที่เรานำมาเปิดเผยสูตรกันในวันนี้้ เป็นเมนูเด่นถึงขนาดที่ไปร้านนี้แล้วห้ามพลาด "Rogan Josh" อย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นคุณอาจเสียใจ ถ้ารู้อย่างนี้แล้วอย่ารอช้าเลยค่ะ รีบไปเตรียมส่วนผสมมาทำกันเลยดีกว่า

ส่วนผสม
  • ขิง 3 กรัม
  • น้ำซุปจากการเคี่ยวเนื้อแพะ 200 กรัม
  • เกลือ 3 กรัม
  • พริกแดงป่นละเีอียด 2 กรัม
  • เครื่องเทศ Masala 2 กรัม
  • ผักชี 3 กรัม
  • พริกเขียว 5 กรัม
  • เนื้อแพะ 200 กรัม
  • น้ำกะทิ หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ

วิธีทำ

  1. นำ พริกแดง ขิง กระเทียม ผักชี ขมิ้น พริกแดงป่นละเอียด พริกไทยดำ ยี่หร่า อบเชย กานพลูและใบกระวานมาบดรวมกันให้ละเีอียด จะได้เป็นเครื่องเทศ Masala
  2. นำเครื่องเทศที่บดจนละเอียดแล้วไปเคี่ยวในน้ำกะทิ
  3. ผัดหอมหัวใหญ่และมะเขือเทศในน้ำมันที่ร้อนได้ที่ เติมน้ำซุปลงไปเล็กน้อยและใส่เนื้อแพะลงไป ทิ้งไว้จนเนื้อแพะพอสุก
  4. เมื่อ ต้มจนเนื้อแพะพอสุกแล้ว ให้นำทั้งหมดเทลงในหม้อกะทิ เติมเกลืออีกเล็กน้อยและเคี่ยวต่อไปจนเนื้อแพะเปื่อยและนุ่ม ก่อนเสิร์ฟโรยหน้าด้วยผักชีและพริกเขียว
เพียงเท่านี้ เราก็จะได้แกงแพะที่หอมกรุ่น เข้มข้นถึงเครื่องเทศและได้ลิ้มรสชาติของอาหารอินเดียแบบแท้ๆ แบบนี้คงต้องขอบคุณต้นตำรับสูตรอาหารของแคว้นแคชเมียร์ จากร้าน Indus ด้วยค่ะ


Grilled Cheese Ham Sandwich

ขอขอบคุณ "ร้าน a cup of trees" โทร. 0-2577-6445

อาหาร แนะนำของ Food Lover ฉบับนี้เป็น Grilled Cheese Ham Sandwich (แซนวิชแบบเปิดหน้า ไส้แฮม ท๊อปด้วยเช็ดด้าร์ชีสเยิ้มๆ) คงเป็นที่ถูกอกถูกใจของสาวๆ Working Woman ทั้งหลายนะคะ เพราะเป็นอาหารที่ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก อร่อยแถมยังได้สารอาหารครบถ้วนอีกต่างหาก เหมาะกับการเป็นอาหารเติมพลัง (กาย+สมอง) ได้ดีทีเดียว

ส่วนประกอบ
  • ขนมปังปิ้งทาเนย
  • ส่วนผสมไส้แฮม
  • มะเขือเทศหั่นชิ้นบางๆ
  • เช็ดดาร์แผ่น (Cheddar Slice)
ส่วนผสมไส้แฮม
  • แฮมหั่นชิ้นเล็ก
  • ผักรวม: แครอท ถั่วลันเตา ข้าวโพด (สามารถหาซื้อแบบแช่แข็ง ที่เรียกว่า Mixed Vegetables) และสับปะรดกระป๋องหั่นชิ้นเล็กๆ
  • กระเทียมสับ
  • เกลือ
  • พริกไทย
  • ซอสทาบาสโก้ (Tabasco Pepper Sauce)
  • ใบไทม์ (Thyme)
  • น้ำมันมะกอก
(หมายเหตุ: ปริมาณของส่วนผสมทั้งหมดตามความชอบค่ะ)

วิธีทำส่วนผสมไส้แฮม
  1. เจียวกระเทียมในน้ำมันมะกอกพอให้เหลืองหอม
  2. ใส่แฮมที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ลงไปรวนกับกระเทียมเจียว ตามด้วยผักรวมและสับปะรด
  3. ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยและเหยาะซอสทาบาสโก้เล็กน้อย (ถ้าชอบรสจัดก็ใส่เยอะได้)
  4. สุดท้ายโรยด้วยสมุนไพรใบไทม์ เพื่อเพิ่มรสชาติและความหอม
ขั้นตอนการประกอบแซนวิช
  1. นำขนมปังที่ปิ้งแล้ว ทาเนยให้ทั่ว
  2. นำไส้แฮมที่ปรุงเรียบร้อยวางบนขนมปัง ตามด้วยมะเขือเทศหั่นชิ้นบางๆ วางทับซ้อนลงไป
  3. ปิด หน้าด้วยแผ่น Cheddar Cheese แล้วนำเข้าเตาอบเพื่อกริลล์ให้ชีสละลายพอเยิ้มๆ น่ารับประทาน ก็เป็นอันใช้ได้ค่ะ (ทานเคียงกับผักสลัดหรือแตงกวาดองตามความชอบค่ะ)

มักกะโรนีอบชีส

ขอขอบคุณ "ร้าน Big Knit" โทร. 0-2260-5050

" มักกะโรนีอบชีส" อาจเป็นเมนูสุดโปรดของหลายคน และแต่ละคนก็คงจะมีสูตรเด็ดเคล็ดลับในการทำที่ต่างกันออกไป วันนี้ able มีอีกหนึ่งสูตรความอร่อยของ "มักกะโรนีอบชีส" ที่จะนำมาแลกเปลี่ยนและบอกต่อคุณผู้อ่าน ให้ได้นำไปอร่อยกันแบบ Unlimited เลยค่ะ

ส่วนผสม
  • มักกะโรนี 30 กรัม
  • แฮม 4 แผ่น
  • เบคอน 2 แผ่น
  • หอมใหญ่สับ 1/2 ลูก
  • วิปปิ้งครีม 10 มิลลิลิตร
  • เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ
  • มอสซาเรลล่าชีส 15 กรัม
  • พาเมซานชีส 5 กรัม
  • เกลือ พริกไทย เล็กน้อย
วิธีทำ
  1. นำเนยสดลงผัดกับหอมใหญ่ ตามด้วยเบคอน ผัดจนหอมใหญ่เริ่มสุกเล็กน้อย
  2. ใส่แฮมตามลงไปผัดต่อ จากนั้นจึงใส่วิปปิ้งครีมตามลงไป
  3. เพิ่มรสชาติด้วยเกลือ พริกไทยเล็กน้อย แล้วผัดต่อจนน้ำเริ่มงวด
  4. นำเส้นมักกะโรนีลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย แล้วโรยหน้าด้วยมอสซาเรลล่าชีสและพาเมซานชีส
  5. นำ เข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 10-15 นาที หรือจนกว่าหน้าจะเริ่มเกรียม (แต่ถ้าชอบแบบหน้าเกรียมมากๆ ก็ใช้เวลานานกว่านี้อีกนิดได้)
สำหรับคนที่ชื่นชอบรสชาติของชีสเป็นชีวิตจิตใจแล้ว จะใส่มอสซาเรลล่าชีสและพาเมซานชีสลงไปอีกก็ไม่ว่ากันนะคะ


ปลาน้ำตก

ขอขอบคุณ "ร้าน เรือนน้ำอลิษา" โทร. 034-232558, 086-8114660

เมื่อ พูดถึงอาหารพื้นบ้านยอดนิยมแล้วละก็ คงต้องมีชื่อของลาบ ส้มตำ น้ำตกอยู่ในใจของหลายๆ คนเป็นแน่ เพราะด้วยรสชาติที่จัดจ้านลงตัวแบบไทยๆ บวกกับวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยาก เลยทำให้เมนูเหล่านี้กลายเป็นเมนูสุดฮิตของหลายๆ โต๊ะ รวมทั้งโต๊ะอาหารของ able วันนี้ด้วยค่ะ เพราะเราก็มีเมนู "ปลาน้ำตก" มาแข่งกับโต๊ะอื่นๆ เหมือนกัน

ส่วนผสม
  • ปลากระพง 1 ตัว
  • ข้าวคั่ว 2 ช้อนชา
  • พริกป่น 2 ช้อนชา
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย เล็กน้อย
  • หอมแดงซอย ผักชีฝรั่งซอย ต้นหอมซอย ใบสะระแหน่ พริกแห้งทอด
วิธีทำ
  1. นำปลาไปล้างให้สะอาด แล่เอาแต่เนื้อ จากนั้นนำเนื้อปลาที่ได้ไปเคล้ากับเกลือทิ้งไว้สักครู่
  2. นำ เนื้อปลาลงทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด ทอดให้เนื้อปลาสะดุ้งน้ำมันเล็กน้อยแล้วจึงลดไฟลงให้อยู่ในระดับความร้อน ปานกลาง ทอดจนเนื้อปลาสุกแล้วตักขึ้นพักไว้ (วิธีนี้เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่จะช่วยทำให้เนื้อปลากรอบนอกนุ่มใน ลองนำไปทำกันดูนะคะ)
  3. ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก น้ำตาล พริกป่น ข้าวคั่ว ให้เข้ากัน ตามด้วยหอมแดงซอย ผักชีฝรั่งซอย ต้นหอมซอยและใบสะระแหน่ คนให้เข้ากันอีกรอบ แล้วจึงนำเนื้อปลาที่ทอดพักไว้ลงคลุกเคล้ากับน้ำปรุงที่เตรียมไว้
  4. ตักใส่จาน แต่งหน้าอีกนิดด้วยพริกแห้งทอดและใบสะระแหน่ เสร็จพร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ
ส่วนปลาที่จะนำมาทำนั้น ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นปลากระพงอย่างเดียวนะคะ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ

นอก จากนั้นเคล็ดลับเล็กๆ ที่แม่ครัวของทางร้านแอบกระซิบบอกต่อเรามา ก็คือ ต้องเลือกใช้ปลาที่สด เพื่อให้ได้ความหวานของเนื้อปลา แล้วจะทำให้เมนูปลาน้ำตกนี้อร่อยมากขึ้นค่ะ


Ham and Brie Cheese Sandwich

ขอขอบคุณ "ร้าน Delifrance" สาขายูไนเต็ดเซ็นเตอร์ โทร. 0-2266-7332

" บรีชีส" หลายๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อของเจ้าชีสชนิดนี้สักเท่าไร แต่ความอร่อยต้องยกให้เขาเลยค่ะ เพราะมีทั้งความหอม นุ่มและหนืดอยู่ในตัว โดยที่ไม่ต้องผ่านการอบหรือผ่านความร้อนมาก่อน ฟังแล้วอยากลองทานกันแล้วใช่ไหมคะ จัดให้เลยค่ะ! เตรียมเข้าครัว แล้วลงมือทำเมนูนี้กันเลยดีกว่า

ส่วนผสม
  • ขนมปังบาแกตต์ อิตาเลียน 1 ชิ้น
  • แฮมสไลด์ 1 แผ่นใหญ่
  • บรีชีส 4 ชิ้น
  • ผักสลัด มะเขือเทศ
วิธีการทำชีส - นำชีสที่เป็นก้อนมาหั่นเป็นชิ้นบางๆ แล้วตัดครึ่ง

วิธีการทำแฮม - นำแฮมสไลด์ 1 แผ่นใหญ่ ตัดออกเป็น 4 ส่วน แล้วนำเข้าอุ่นในเตาไมโครเวฟ 30 วินาที

ขั้นตอนการประกอบแซนวิช
  • นำขนมปังมาผ่าครึ่งแล้วอบ เพื่ออุ่นให้ขนมปังร้อนและกรอบ จากนั้นทาเนยหรือมายองเนสตามชอบให้ทั่วขนมปัง
  • ใส่ผักสลัดและมะเขือเทศที่หั่นเป็นชิ้นบางๆ ลงในขนมปัง
  • เรียง แฮมสลับกับบรีชีสบนมะเขือเทศ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนแล้วค่ะ ก่อนเสิร์ฟเทมันฝรั่งแผ่นกรุบกรอบลงในจานอีกนิด อร่อยเข้าคู่กันกับแซนวิชได้ดีเลยค่ะ
ส่วน ขนมปังที่เลือกมาใช้นั้น จะเลือกใช้เป็นขนมปังบาแกตต์, ฮันนี่ วีท, ครัวซองหรือจะเป็นขนมปังชนิดอื่นก็ได้ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ เช่นเดียวกันกับชีส หากจะเปลี่ยนเป็น Cheddar Cheese หรือชีสชนิดอื่นๆ ก็ไม่ถือว่าผิดกติกาค่ะ


ปอเปี๊ยะสด

ขอขอบคุณ "ร้าน คุณเชิญ คอทเทจ" โทร. 0-2443-7285

ช่วง เทศกาลปีใหม่แบบนี้ คุณผู้อ่านคงมีงานปาร์ตี้ยาวเหยียดเลยใช่ไหมคะ งานเลี้ยงเยอะแบบนี้ ระวังรอบเอวขยายกันหน่อยนะคะ แ่ต่ถ้าให้ดีลองหาเมนูสุขภาพไว้บนโต๊ะด้วยก็ดีนะคะ วันนี้ able เลยขออาสาไปเสาะหาเมนูสุขภาพมาให้ค่ะ

ส่วนผสมที่ใช้ห่อปอเปี๊ยะ
  • เต้าหู้ขาวหั่นแท่ง 4 แท่ง (ทอดให้พอสุก)
  • แตงกวาหั่นแท่ง 4 แท่ง
  • วุ้นเส้นไม่ฟอกสี ห่อเล็กใช้ประมาณ 1/2 ห่อ ต้มให้สุก สะเด็ดน้ำไว้รอห่อ
  • แผ่นปอเปี๊ยะ
  • ผักกาดหอม ผักคอส ผักชีฝรั่ง ผักชีไทย โหระพา สะระแหน่ (ใช้ผักปลอดสารพิษ)
ส่วนผสมของไส้ปอเปี๊ยะ
  • ฟักทองขูดเป็นเส้น 2 ขีด
  • เผือกขูดเป็นเส้น 2 ขีด
  • น้ำตาลไม่ฟอก 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำไส้ปอเปี๊ยะ
นำ ฟักทองขูด เผือกขูด ลงผัดในกระทะเติมน้ำตาล พริกไทย ซีอิ๊วขาว พยายามคนให้น้อยที่สุดไส้จะได้ไม่เละ เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ตักขึ้นพักไว้ให้เย็นรอห่อ

วิธีการห่อปอเปี๊ยะ
นำ แผ่นปอเปี๊ยะชุบน้ำอุ่นเล็กน้อย วางเรียงในถาดที่ทำความสะอาดดีแล้ว หลังจากนั้นเรียงผักลงบนแผ่นปอเปี๊ยะ ใช้ผักใบใหญ่ไว้ด้านล่าง ผักใบเล็กไว้ด้านบน ตักไส้วางตรงกลาง ตามด้วยแตงกวา เต้าหู้ วุ้นเส้น ห่อให้สวยงาม จัดวางบนจานเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มและผักเคียง (ผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง ผักชีไทย)

เรื่องรส ชาตินั้นหอมอร่อยจากตัวไส้ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับความกลมกล่อมแบบออกจัดจ้านนิดๆ จากตัวน้ำจิ้ม ลบภาพของอาหารสุขภาพที่หลายคนเคยคิดว่าจืดชืดและทานยากไปได้เลยค่ะ รับรองว่าปาร์ตี้นี้ได้ความสนุกแบบไม่เสียสุขภาพแน่นอนค่ะ


ไปไหนไปด้วย

ขอขอบคุณ "ร้าน In Love" โทร. 0-2281-2900, 0-2628-8512

แม้ จะผ่านวันวาเลนไทน์มาแล้ว แต่กลิ่นอายของเทศกาลก็ยังคงไม่จางหาย able ก็ไม่ยอมตกเทรนด์ ขอร่วมด้วยช่วยเสริมความหวานผ่านเมนูอาหาร "ไปไหนไปด้วย" ที่ฟังแค่ชื่อก็คงไม่ต้องอธิบายถึงความหวานแล้วค่ะ

ส่วนเรื่องรสชาติ คงต้องยกให้หลายๆ นิ้ว เพราะหวานอมเปรี้ยว กลมกล่อมกำลังดี คู่รักคู่ไหนจะลองนำไปทำทานด้วยกัีน ทางร้าน In Love เขาก็ยินดีค่ะ


ส่วนผสม
  • เต้าหู้ไข่ 2 หลอด
  • กุ้งแชบ๊วย 4 ตัว
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปีบ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1/4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
  • ขิงซอยทอด หอมเจียว พริกแห้ง

วิธีทำ

  1. นำกุ้งที่แกะเปลือกและล้างจนสะอาดแล้วไปคลุกกับแป้งหมี่ แล้วนำลงทอดในน้ำมัน เมื่อสุกแล้วตักขึ้นพักไว้
  2. หั่น เต้าหู้ไข่เป็นท่อนสี่เหลี่ยม ยาวพอประมาณ จากนั้นำลงทอดโดยใช้ไฟแรง ทอดจนเต้าหู้เป็นสีเหลืองทองน่ารับประทานแล้วจึงตักขึ้นพักไว้
  3. เคี่ยวน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปีบ น้ำปลาและน้ำเปล่าเข้าด้วยกันจนข้นเหนียว
  4. จัด กุ้งและเต้าหู้ลงในจานให้สวยงาม ราดด้วยน้ำซอสที่เคี่ยวเตรียมไว้ โรยหน้าอีกนิดเพื่อเพิ่มความหอมด้วยขิงซอยทอด หอมเจียวและพริกแห้ง เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟค่ะ

กลเม็ดเคล็ดลับ

  • การเลือกใช้แป้งหมี่คลุกกุ้ง เนื่องจากแป้งหมี่จะเกาะติดกับเนื้อสัตว์ได้ดี และเมื่อนำลงทอดแป้งก็จะไม่ค่อยหลุดร่อน
  • การทอดเต้าหู้ด้วยไฟแรง จะช่วยให้เต้าหู้ไม่เละและแตก

กุ้งทอดครีมสลัดวาซาบิ

ขอขอบคุณ "ร้าน Monkeys" โทร. 0-2185-3731, 0-2712-7223

เมนู แนะนำจาก able ในวันนี้ทำไม่ยาก...อร่อยจนต้องยกนิ้วให้ก็ตรงแป้งที่ใช้ชุบกุ้ง รับประกันเลยว่ากรอบจริงและกรอบนาน (ผ่านการพิสูจน์จากเหล่าพี่ๆ น้องๆ ใกล้ตัวมาแล้ว) และอีกหนึ่งความพิเศษที่ไม่มีใครเหมือน คือ ครีมสลัดวาซาบิที่รสชาติเข้มข้น เข้ากันได้ดีกับกุ้งทอดนี่แหละค่ะ

ส่วนผสม
  • กุ้งแชบ๊วยใหญ่ 4-5 ตัว
  • ผักหรือผลไม้ เช่น มะม่วงสุก แตงโม แคนตาลูป ฯลฯ
ส่วนผสมแป้งชุบกุ้ง
  • แป้งมันโบแดง 300 กรัม
  • แป้งข้าวเหนียว 100 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า เล็กน้อย
ส่วนผสมครีมสลัดวาซาบิ
  • มายองเนส 500 กรัม
  • นมข้น 120 กรัม
  • น้ำมะนาว 70 กรัม
  • วาซาบิ 30 กรัม
วิธีทำ
  1. นำกุ้งที่แกะเปลือกเรียบร้อยแล้วมาล้างด้วยแป้งมันที่ผสมน้ำเล็กน้อย จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่าอีกรอบให้สะอาด
  2. ผสมแป้งมันโบแดง แป้งข้าวเหนียวและผงฟูกับน้ำอีกเล็กน้อย ตีส่วนผสมให้เข้ากันและเหนียวพอประมาณ
  3. นำกุ้งชุบลงในแป้งที่ผสมไว้ แล้วทอดในน้ำมันด้วยไฟปานกลาง ทิ้งให้พอเหลืองสวย ตักขึ้นพักไว้ให้สะเ้ด็ดน้ำมันและจัดใส่จานที่เตรียมไว้
  4. ตี ส่วนผสมครีมสลัดวาซาบิให้เข้ากัน แล้วนำไปราดลงบนตัวกุ้งที่เตรียมไว้ ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยผักหรือผลไม้ตามชอบ และโรยหน้าอีกนิดด้วยสาหร่ายบดละเีอียด
เคล็ดลับน่ารู้
  • การล้างกุ้งด้วยแป้งมัน จะช่วยขจัดกลิ่นคาวและทำให้กุ้งดูขาวสะอาด
  • แตงโมและมะม่วงสุก จะเข้ากันได้ดีกับกุ้งทอดครีมสลัดวาซาบิ

ชุดอาหารแมคโครไบโอติกส์

ขอขอบคุณ "ร้าน คุณเชิญ คอทเทจ" โทร. 0-2443-7285

อาหาร ที่อยากจะแนะนำในคราวนี้ เรียกได้ว่าเด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี (ต่อสุขภาพ) เหมาะกับคนทุกวัยในครอบครัวค่ะ เพราะมากด้วยคุณประโยชน์และปลอดจากสารพิษใดๆ แถมยังได้ลิ้มรสชาติแท้ๆ ของอาหารนั้นๆ อีกด้วย

ข้าวธัญพืชครบรูป (ปริมาณ 60เปอร์เซ็นต์) ประกอบด้วย

ส่วนที่ 1:
ข้าวสาลี ข้าวบาร์เล่ย์ ข้างฟ่าง ลูกเดือย ลูกบัว ข้าวมันปู ข้าวกล้อง ข้าวเหนียวกล้อง อย่างละ 1 กำมือ หุ้งในหม้อหุงข้าวปกติ ก่อนหุงแช่ข้าวที่ขีดเส้นใต้ไว้กอ่น 1 ชั่วโมง เนื่องจากมีความแข็งและสุกยาก
ส่วนที่ 2:
ถั่วต้มนานาชนิด ถั่วแดงเล็ก เม็ดลันเตา

ผักสุก (ปริมาณ 15 เปอร์เซ็นต์) ประกอบด้วย
ส่วนที่ 1:
ผักลวกหลากสี คลุกเคล้าด้วยน้ำมันงาและทามาริ (ซีอิ๊วญี่ปุ่นที่ผลิตด้วยกรรมวิธีดั้งเดิม ไม่ใส่สารเคมี) แล้วโรยหน้าด้วยงาขาวและงาดำ
ส่วนที่2:
ผักนึ่ง เป็นมันฝรั่งออร์แกนิคนึ่งให้สุกแล้วทาด้วยเนยดอกทานตะวัน (หรือจะเปลี่ยนเป็นพืชหัวชนิดอื่นตามชอบก็ได้)

ผักสด (ปริมาณ 15 เปอร์เซ็นต์) ประกอบด้วย
ผักสลัดปลอดสารพิษหลากหลายชนิด ราดด้วยน้ำสลัดใสๆ รสชาติเบาๆ เช่น น้ำสลัดเพรสโต้ น้ำสลัดอิตาเลี่ยน

ซุป (ปริมาณ 5 เปอร์เซ็นต์) ประกอบด้วย
ผัก ดองหรือผักจากทะเล (ปริมาณ 5 เปอร์เซ็นต์) มิโซะซุป (ถั่วเหลืองหมักบดละเอียด) ต้มในน้ำสาหร่ายวากาเมะ ปรุงรสด้วยทามาริ เสริมด้วยเต้าหู้อ่อนและต้มหอมซอย

หลายคนเริ่มดูแลตัวเองเมื่อโรคภัย มาเยือนถึงหน้าบ้าน ซึ่งจะมาพร้อมกับมิตรแท้ถาวรที่ชื่อ "ยา" หลากหลายขนาน ที่พร้อมจะตามติดคุณไปทุกที่ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นอาจจะสายไป เราจึงอยากชวนคุณให้เริ่มหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันเสียตั้งแต่วันนี้ จะได้ไม่ต้องทนกินยาขมๆ แทนอาหารอร่อยๆ

และสุดสัปดาห์นี้ ก็อย่าลืมชวนครอบครัวมาร่วมสร้างสุขภาพที่ดีกันนะคะ


ยำผลไม้รวม

ขอขอบคุณ "ร้าน บ้านทองหล่อ 21" โทร. 0-2185-1867-8

อากาศ ร้อนๆ แบบนี้ หากได้ทานผลไม้หวานๆ สักหน่อยคงชื่นใจไม่น้อย ยิ่งเป็นผลไม้ที่ได้รับการปรุงให้มีรสชาติจี๊ดจ๊าดนิดๆ แบบกลมกล่อมด้วยแล้ว คงทำให้อารมณ์หงุดหงิดในยามบ่ายร้อนๆ ดีขึ้นทีเดียว

ส่วนผสมน้ำยำ
  • มะนาว 2 ลูก
  • น้ำปลาอย่างดี 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • พริกขี้หนู 3-5 เม็ด
  • กระเทียม 1 กลีบ
ส่วนผสม
  • แครอทหั่นฝอย 1 ถ้วย
  • มะเขือเทศหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ถ้วย
  • ถั่วลิสง+เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ตามชอบ
  • ฝรั่ง สับปะรด แอปเปิ้ล องุ่น สตอเบอร์รี่หรือผลไม้ตามฤดูกาล
วิธีทำ
  1. หั่นผลไม้เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า แล้วนำลงแช่ในน้ำที่ผสมน้ำแข็งและเกลือเล็กน้อย
  2. นำน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปีบ น้ำตาลทรายและเกลือ คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่พริก ขี้หนูและกระเทียมสับตามลงไป แล้วคนให้เข้ากันอีกรอบ
  3. นำ ผลไม้ที่แช่น้ำเตรียมไว้ แครอท มะเขือเทศ ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผสมคลุกเคล้ากับน้ำยำให้เข้ากัน จากนั้นตักใส่ลงจานพร้อมรับประทาน
เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ
การแช่ผลไม้ในน้ำที่ผสมน้ำแข็งและเกลือ ช่วยให้ผลไม้ดูสด สีสวย น่ารับประทาน

เป็น เมนูที่ทำได้ง่ายและขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยากเลยใช่ไหมคะ แถมยังได้ทานผลไม้หลากหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แล้วก็ไม่อ้วนอีกต่างหาก

และอย่าลืมว่าหน้าร้อนแบบนี้ อาหารที่นำมาปรุงต้องสดและสะอาดอยู่เสมอนะคะ


ปลาแห้งแตงโม

ขอขอบคุณ "ร้านก๋วยเตี๋ยวแม่" โทร. 081-8211782

หาก พูดถึงอาหารว่างของไทยที่นิยมทานเพื่อคลายร้อน หลายคนคงนึกถึง "ข้าวแช่" แต่ทราบไหมว่า ยังมีอาหารอีกชนิดหนึ่ง ที่ช่วยดับร้อนได้เป็นอย่างดีเช่นกัน นั่นก็คือ "ปลาแห้งแตงโม" อาหารว่างโบราณของไทยที่มักนิยมทำทานกันในช่วงหน้าร้อน แต่ดูเหมือนว่าในปัจจุบันจะกลายเป็นอาหารที่หาทานได้ยากเสียแล้ว

ส่วนผสม
  • แตงโมเนื้อดี 1 ลูก
  • ปลาช่อนตากแห้ง 200 กรัม
  • น้ำตาลทราย 300 กรัม
  • เกลือ 10 กรัม
  • หอมแดงเจียวเหลือง 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
  1. ทอดปลาช่อนในน้ำมันจนเหลืองกรอบ
  2. นำปลาช่อนที่ทอดจนกรอบดีแล้วไปตำจนเนื้อปลาช่อนแหลกละเอียด แล้วพักไว้ให้เย็น
  3. นำ น้ำตาลทราย เกลือ ผสมลงในปลาช่อนที่ตำเตรียมไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย โรยหน้าอีกนิดด้วยหอมแดงเจียว พร้อมเสิร์ฟกับแตงโมที่แช่จนเย็นฉ่ำ
การทำปลาแห้งนั้นอาจทำได้อีก วิธี คือ ปิ้งปลาช่อนบนเตาถ่านจนสุก แล้วแกะเอาเฉพาะเนื้อใส่ครกโขลกให้ละเอียดเป็นปุย แล้วนำลงผัดในน้ำมันที่เหลือจากการเจียวหอมด้วยไฟอ่อนๆ ผัดจนกระทั่งเนื้อปลาเหลืองกรอบจึงตักขึ้นพักไว้ให้เย็น แล้วค่อยนำไปคลุกเคล้ากับส่วนผสมอื่นต่อไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดและความสะดวกของแต่ละคนนะคะ ว่าจะเลือกทำด้วยวิธีไหน

"ปลาแห้งแตงโม" เป็นอาหารที่ช่วยแก้กระหายคลายร้อนจากความร้อนอบอ้าวแห่งฤดูกาลได้เป็นอย่าง ดี ซึ่งนอกจากแตงโมจะช่วยดับร้อนและให้ความสดชื่นแล้ว เรายังได้สารอาหารทั้งวิตามิน เกลือแร่ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ทั้งแคลเซีม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก โปแตสเซียม วิตามินซี และโดยเฉพาะวิตามินเอซึ่งมีมากในเนื้อแตงโม